คฑาวุธ ทองไทย (ใข่) - ร้องนำ/แต่งเพลง
ไข่ คฑาวุธ ทองไทย บ้านเดิมอยู่ ต.ลำไพล อ.เทพา จ.สงขลา เป็นลูกคนสุดท้องของครอบครัว มีพี่สาว 2 คน คุณพ่อเป็นคน
ภาคใต้ คุณแม่เป็นคนภาคเหนือ ไข่จึงมีหน้าตาเหมือนคนภาคเหนือ มีความเป็นศิลปินมาตั้งแต่เด็ก ๆ ชอบร้องเพลง วาดภาพ
ปัจจุบันกำลังศึกษาต่อระดับปริญญาโทด้านจิตรกรรมฯ ซึ่งคาดว่าจะรับปริญญาในปี 2548 นี้
และเป็นอาจารย์สอนในภาควิชาทัศนศิลป์ของโรงเรียนสาธิตศิลปากร นครปฐม
ธงชัย รักษ์รงค์ (ธง) - ร้องนำ/กีต้าร์/แต่งเพลง
ชิดชัย ศิริโภคา (โก๊ย) - แต่งเพลง/กีต้าร์
วันศุกร์ที่ 1 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556
อัลบั้ม
1. มาลีฮวนน่า ชุด ลมใต้ปีก (พ.ศ. 2537)
01-ลัง
02-จันทร์ฉาย
03-ว่าวจุฬา
04-วัยรุ่น
05-สายน้ำ(KILLNG FIELD)
06-มุดก้อนเมฆ
07-มายา
08-กลัว
09-สหายสุรา
10-รอยทาง
11-เพลงพิเศษ
2. มาลีฮวนน่า ชุด เปรือย
01 ชบา
02 ระบำชีวิต
03 เรียนรู้
04 มาลีฮวนน่าปาร์ตี้
05 สายน้ำ..สายเลือด
06 ลัง
07 ไกลบ้าน
08 ละหมาดอารมณ์
09 ธารหัวใจ
10 ระยำชีวิต
Song 11
3. มาลีฮวนน่า ชุด เพื่อนเพ
01 แสงจันทร์.mp3
02 สมิหลา-รูสมิแล.mp3
03 พร้าว.mp3
04 คืนมา.mp3
05 เรือน้อย.mp3
06 น้ำตา.mp3
07 พี่ชาย.mp3
08 นักดนตรี.mp3
09 นกกรงหัวจุก.mp3
10 ขอทานน้อย.mp3
11 MUK.mp3
4. มาลีฮวนน่า ชุด กลับกลาย
01 ลืม.mp3
02 ถนนแปลกแยก.mp3
03 ตุ้งแกวด.mp3
04 ก้าวย่าง-ทางเดิน.mp3
05 หมาล่าเนื้อ.mp3
06 กลับกลาย.mp3
07 อาวรณ์.mp3
08 แปรเปลี่ยน.mp3
09 สำนึก.mp3
10 ยุควิบัติ.mp3
11 เพลงพิเศษ.mp3
5. มาลีฮวนน่า ชุด คนเช็ดเงา
01 เขเรือ.mp3
02 หมาหยอกไก่.mp3
03 ร้องไห้กับเดือน.mp3
04 เด็กน้อย.mp3
05 คนเช็ดเงา.mp3
06 ชะตากรรม.mp3
07 โมรา.mp3
08 ฝุ่น[CHIRI CHIRI].mp3
09 คนเลว.mp3
10 คืนใจ.mp3
11 เพลงพิเศษ.mp3
6. มาลีฮวนน่า ชุด บุปผาชน
01 ชุ่มฉ่ำในดวงใจ.mp3
02 นิรันดร์.mp3
03 ไปไกล.mp3
04 รักสาวพรานนก.mp3
05 เรือรักกระดาษ.mp3
06 ลมเพ-ลมพัด.mp3
07 ลานนม-ลมเน.mp3
08 วิถีคนจร.mp3
09 หัวใจพรือโฉ้.mp3
10 หัวใจละเหี่ย.mp3
7. มาลีฮวนน่า ชุด ปรายแสด
01 กระท่อมกัญชา
02 บัวทอง
03 เพียงลมพัดผ่าน
04 ยิ้มไห้กับฝัน
05 ช่วยจันทร์ (ราหูอมจันทร์)
06 ถนนชีวิต
07 เพ้อรัก
08 แดดสุดท้าย
09 นกบินลัดฟ้า
10 ในฝัน
8. มาลีฮวนน่า ชุด บังใบ้
1. ไอ้ใบ้
2. อีสาระภา
3. โจใจ
4. แผลเมือง
5. พี พี มายเดียร์
6. บางเงา
7. หนาวเล
8. เสียสาว
9. โปรดทิ้งฉันไว้ที่ปลายขอบฟ้า
10. มองอย่างนก
11. คนโซ
12. ออกเล
มาลีฮวนน่า ดอกไม้ดนตรีจากดินแดนด้ามขวาน

มาลีฮวนน่า ดอกไม้ดนตรีจากดินแดนด้ามขวาน
“ไม่บอก เธอไม่ รู้แน่ อยากเข้าไปแค่ หัวใจ ที่ยังพรือโฉ้ ก็แค่ผู้ชาย
อยู่โบร๊กะแถมยังอดโซ รักของพี่ รักนี้ แค่รักหย่อม ๆ อยาก มีใคร สักคน
ช่วยผ่อนคลาย ความเหงา ความเศร้าที่ใจ บน ทางเดิน กว้าง ไกล ยังไม่มีใคร หัวใจ
พี่ยังพรือโฉ้...”
ย้อนหลังไปราวๆ 15 ปี ในช่วงที่วงการเพลงไทย อวลไปด้วยเสียงของดนตรีอัลเทอร์เนทีฟ ดูเหมือนไม่มีที่ว่างให้กับงานเพลงในแนวทางอื่น
แต่มีบทเพลงหนึ่ง ที่เล่น บรรเลงด้วยเครื่องดนตรีที่เรียบง่าย เสียงร้องสำเนียงใต้ ที่มีความเป็นเอกลักษณ์ของตัวเอง และท่วงทำนองที่ลื่นไหล ก็สอดแทรกเสียงกีตาร์ที่แตกพร่า ขึ้นมาเป็นเพลงฮิตได้ในยุคนั้น
ยุคที่แวดวงดนตรีอินดี้เบ่งบาน ยุคที่วงดนตรีจากแดนใต้ที่ชื่อว่า “มาลีฮวนน่า” เริ่มต้นเดินบนถนนดนตรีของเมืองไทย
***************************
มาลีฮวนน่าเริ่มต้นตั้งวงกันในปี 2534
จากความเป็นเพื่อนของกลุ่มนักเรียนศิลปะ และผองเพื่อนอีกหลายหลากสาขาอาชีพ
ที่มาใช้ชีวิตกันในกรุงเทพฯ ในช่วงวัยที่เต็มไปด้วยความคิดสร้างสรรค์ในตัว
มาลีฮวนน่า มีแกนนำคือ คฑาวุธ ทองไทย นักศึกษามหาวิทยาลัยศิลปากร ธงชัย รักษ์รงค์ นักดนตรีที่เล่นตามร้านต่างๆ ทางภาคใต้ และสมพงศ์ ศิวิโรจน์ ที่กำลังศึกษาที่โรงเรียนไทยวิจิตรศิลป โดยที่มาของชื่อวงนั้น ผันมาจากคำว่า มารีจัวน่า ที่แปลว่ากัญชา
พวกเขาร่วมกันทำงานเพลงที่มีแรงขับมาจากความรู้สึก นึกคิดที่มีต่อสภาพสังคม สภาพแวดล้อม เพื่อระบายความอัดอั้นอันเกิดจากความแตกต่างของวัย และปมด้อยทางสถานภาพสังคม หากก็ไม่ได้มีผลงานเป็นรูปเป็นร่างออกมา
จนปี 2537 มาลีฮวนน่าก็ออกเดินทางบนถนนสายดนตรีเต็มตัว ด้วยผลงานชุดแรก “บุปผาชน” ที่ได้รับการช่วยเหลือจากอาจารย์ยงยุทธ คำศรี แกนนำของวงด้ามขวาน วงดนตรีเพื่อชีวิต ที่ทำงานในแบบใต้ดินออกมา และประสบความสำเร็จมีแฟนเพลงติดตามเหนียวแน่น จนทำให้ทางวงมาลีฮวนน่ามองเห็นช่องทาง ที่จะส่งต่อความคิด ทัศนคติต่างๆ ที่พวกเขามีในบทเพลงออกไป โดยที่ไม่ต้องอาศัยบริษัทเพลงใหญ่ๆ มาสนับสนุน
อัลบั้ม “บุปผาชน” บันทึกเสียงกันที่ห้องอัดของฮิเดกิ มอริ ซึ่งเป็นบ้านสองชั้นในย่านบางบัวทอง ภาพปกก็เป็นฝีมือของสมพงศ์เอง ส่วนคฑาวุธได้วาดภาพลายเส้นที่ปกใน ปกอัลบั้มพิมพ์กันที่โรงพิมพ์ของมหาวิทยาลัยศิลปากร ส่วนเทปคาสเส็ทท์ ก็ให้บริษัทออนป้าช่วยก็อปปี้ ให้ทางวงกับเพื่อนๆ ช่วยกันนำไปวางขายตามแผงเทปต่างๆ
สำหรับสมาชิกที่ร่วมกันทำงานในตอนนั้นประกอบด้วย คฑาวุธ ทองไทย-ร้องนำ, ธงชัย รักษ์รงค์ ร้องนำ/ กีตาร์, สมพงศ์ ศิวิโรจน์ แต่งเพลง และเชิดชัย ศิริโภคา เข้ามาดุแลในเรื่องธุรกิจ เพียงเวลาไม่นานนัก บทเพลงในแนทางโฟล์ค ที่เรื่องราวบ่งบอกถึงชีวิตของผู้คน และสังคมรายรอบ โดดเด่นด้วยดนตรีสำเนียงใต้ กับเนื้อร้องที่เป็นภาษาถิ่น ของมาลีฮวนน่าก็เริ่มได้รับความนิยม โดยมีเพลง หัวใจพรือโฉ้ ลมเพลมพัด เรือรักกระดาษ เป็นแรงส่งสำคัญ และทำให้อัลบั้ม บุปผาชน ของมาลีฮวนน่าเป็นอัลบั้มเพลงใต้ดิน ที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดชุดหนึ่งในบ้านเรา และนับจากนี้ พวกเขาก็ไม่ได้เป็นที่รู้จักแค่ในแวดวงคนฟังเพลงเพื่อชีวิต แฟนเพลงที่เป็นนักคิดนักเขียนอีกต่อไปแล้ว
ยิ่งในปี 2538 บริษัทไมล์สโตน ของมาโนช พุฒตาล ได้ชักชวนวงมาลีฮวนน่าเข้าไปร่วมงาน ยิ่งทำให้พวกเขากลายเป็นที่รู้จักในวงกว้างมากขึ้น จนสามารถออกทัวร์ทั่วประเทศได้ในปีต่อมา ซึ่งถือว่ามีวงใต้ดินเพียงไม่กี่วงที่ทำได้แบบนี้ และได้รับความนิยมในลำดับต้นๆ ของวงการเพลงเพื่อชีวิต
มาลีฮวนน่า ยังออกอัลบั้มมาอย่างต่อเนื่อง ในปี 2540 พวกเขามีอัลบั้มชุดที่ 2 “คนเช็ดเงา” ออกมา ก็ได้รับการต้อนรับจากแฟนเพลงอย่างอบอุ่น โดยมีเพลง โมรา และชะตากรรม เป็นเพลงดังประจำอัลบั้ม
ปี 2542 มาลีฮวนน่า ออกอัลบั้มชุดที่ 3 “กลับกลาย” ที่โดดเด่นด้วยเนื้อหาที่เต็มไปด้วยบทกวี ขณะที่เรื่องราวก็เน้นการปุกปลอบให้กำลังใจ
ในปีถัดมา มาลีฮวนน่าก็เปิดบริษัทของตัวเองในชื่อ ดรีม เรคอร์ดส์ ที่สองแกนนำของวง คฑาวุธ ทองไทย กับธงชัย รักษ์รงค์ เป็นหุ้นส่วนใหญ่ โดยมีอัลบั้มชุดที่ 4 “เพื่อนเพ” ออกมาเป็นอัลบั้มแรก อัลบั้มชุดนี้มีที่มาจากการที่ทางวงได้เดินางไปเปิดการแสดงในที่ต่างๆ แล้วได้พูดคุยกับเพื่อนพ้องมากมาย ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มศิลปิน นักประพันธ์ ที่หลายๆ คนเขียนงานเพลงขึ้นมาแล้วไม่มีโอกาสที่จะได้เผยแพร่ มาลีฮวนน่าจึงนำบทเพลงของพวกเขามาใส่ในอัลบั้ม เพื่อนเพ เพื่อที่จะได้เผยแพร่ไปในที่ต่างๆ ได้ง่ายขึ้น
มาลีฮวนน่ายังสานต่อผลงานเพลงออกมาอย่างต่อเนื่อง โดยในปี 2545 พวกเขาออกอัลบั้มบันทึกการแสดงสด “ระบำสยามทาส” และตามด้วย “ลมใต้ปีก” ในปี 2546 ก่อนที่สมาชิกของวงจะพักการทำงานดนตรีในนามมาลีฮวนน่าลงชั่วคราว โดยต่างคนต่างก็หันไปทำงานประจำ หรืองานที่ตัวเองสนใจ คฑาวุธ ทองไทย เป็นอาจารย์อยู่ที่มหาวิทยาลัยศิลปากร ทับแก้ว, ธงชัย รักษ์รงค์ ทำธุรกิจห้องอัดเสียง, สมพงษ์ ศิวิโรจน์ ใช้เวลากับการเขียนเพลง
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)